โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS ในอัตรา 100% หากกลุ่มดังกล่าวพยายามสร้างสกุลเงินใหม่หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นเพื่อทดแทนดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำ
นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตประจำเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.4 จากระดับ 46.5 ในเดือนตุลาคม ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 47.5
ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำ ขณะที่กองทุน SPDR ขายทองคำออก 2.59 ตัน
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจ แนวโน้มราคาทอง ที่ต้องติดตามในคืนนี้ สหรัฐฯ มีกำหนดการเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร (JOLTS) โดยตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.49 ล้านตำแหน่ง จาก 7.44 ล้านตำแหน่ง
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวลงในช่วงเช้า แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้เกิดแท่งเทียนรูปแบบ Hammer ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ระหว่าง 2,620-2,650 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ นักลงทุนควรติดตามปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตประจำเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.4 จากระดับ 46.5 ในเดือนตุลาคม ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 47.5
ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำ ขณะที่กองทุน SPDR ขายทองคำออก 2.59 ตัน
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจ แนวโน้มราคาทอง ที่ต้องติดตามในคืนนี้ สหรัฐฯ มีกำหนดการเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร (JOLTS) โดยตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.49 ล้านตำแหน่ง จาก 7.44 ล้านตำแหน่ง
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวลงในช่วงเช้า แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้เกิดแท่งเทียนรูปแบบ Hammer ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ระหว่าง 2,620-2,650 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ นักลงทุนควรติดตามปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน